ข้อบังคับสมาคม


หมวดที่ ๑
ความทั่วไป

ข้อ ๑.    สมาคมนี้มีชื่อว่า สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์

เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า ONLINE NEWS PROVIDERS ASSOCIATION

ข้อ ๒.    เครื่องหมายของสมาคมมีลักษณะ เป็นรูปวงกลมสีดำ ด้านบนของวงกลมมีลักษณะเปิดและมีเส้นดำ หนาทึบลากเข้ามาด้านในจุดกึ่งกลางของวงกลมโดยด้านบนของวงกลมและเส้นดำดังกล่าว จะมีเส้น ครึ่งวงกลมสีน้ำตาล จำนวน ๓ เส้น ครอบอยู่ในลักษณะคลื่นไล่จากขนาดเล็กไปยังขนาดใหญ่ และ ด้านขวาของรูปภาพดังกล่าวมีชื่อภาษาอังกฤษของสมาคมกำกับอยู่ในแนวตั้ง และด้านล่างของ วงกลมสีดำจะปรากฏภาษาอังกฤษคำว่า SONP กำกับอยู่

มีความหมายว่า สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์

รูปของเครื่องหมายสมาคม

ข้อ ๓.    สำนักงานใหญ่ของสมาคมตั้งอยู่เลขที่ ๕๓๘/๑ ถนนสามเสน แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร

ข้อ ๔.    วัตถุประสงค์ของสมาคม เพื่อ

๔.๑  ส่งเสริมและรักษาสภาพแวดล้อมของการแสดงออกอย่างเสรีของสื่อบนอินเทอร์เน็ต

๔.๒  กระตุ้นการมีส่วนร่วมของพลเมืองในการส่งเสริม และการป้องกันเสรีภาพของสื่อบน อินเทอร์เน็ต

๔.๓  ช่วยเหลือและส่งเสริมและเพื่อให้ได้มาซึ่งสภาพแวดล้อมสำหรับสื่อบนอินเทอร์เน็ตที่มีความรับผิดชอบและเสรี

๔.๔  สร้างศักยภาพของสื่อบนอินเทอร์เน็ตที่มีความหลากหลายและอิสระและความ สามารถทางวิชาชีพของบุคคล

๔.๕  ส่งเสริมการเข้าถึงที่กว้างขวางขึ้นในข้อมูลและธรรมาภิบาล

๔.๖  ดำเนินการ หรือร่วมมือกับองค์การการกุศลอื่นๆ เพื่อสาธารณประโยชน์

๔.๗  ไม่ดำเนินการเกี่ยวข้องกับการเมืองแต่ประการใด


หมวดที่ ๒
สมาชิก

ข้อ ๕.    สมาชิกของสมาคมมี ๒ ประเภท คือ

๕.๑  สมาชิกสามัญ ได้แก่ ผู้ประกอบธุรกิจผลิตข่าวออนไลน์ที่เป็นนิติบุคคล หรือได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกตามข้อบังคับ ให้ถือว่าผู้เริ่มการก่อตั้งทั้งหมดเป็นสมาชิกสามัญ

๕.๒  สมาชิกวิสามัญ มี 2 ประเภท ได้แก่

๕.๒.๑ ผู้ประกอบการที่เป็นนิติบุคคลหรือบุคคลธรรมดาซึ่งประกอบธุรกิจผลิตข่าวออนไลน์มาไม่ถึง ๖ เดือน หรือไม่เข้าเงื่อนไขการเป็นสมาชิกตามระเบียบว่าด้วยสมาชิก แต่ประสงค์จะสมัครเป็นสมาชิกสมาคม
๕.๒.๒ ผู้ประกอบการที่เป็นนิติบุคคลหรือบุคคลธรรมดาซึ่งประกอบธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการผลิตข่าวออนไลน์ และมีความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมของสมาคม

ข้อ ๖.    สมาชิกจะต้องประกอบด้วยคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้

๖.๑  บุคคลธรรมดา

๖.๑.๑    เป็นผู้บรรลุนิติภาวะแล้ว

๖.๑.๒   เป็นผู้มีความประพฤติเรียบร้อย

๖.๑.๓   ไม่เป็นโรคที่สังคมรังเกียจ

๖.๑.๔   ไม่ต้องคำพิพากษาของศาลถึงที่สุดให้เป็นบุคคลล้มละลาย หรือไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ หรือต้องโทษจำคุก ยกเว้นความผิดฐานประมาท หรือลหุโทษ การต้องคำพิพากษาของศาลถึงที่สุดในกรณีดังกล่าวจะต้องเป็น ในขณะที่สมัครเข้าเป็นสมาชิก หรือในระหว่างที่เป็นสมาชิกของสมาคมเท่านั้น

๖.๒  นิติบุคคล

๖.๒.๑   มีวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการด้านสื่อสารมวลชน

๖.๒.๒   ไม่ประกอบกิจการอันใดอันเป็นการละเมิดกฎหมาย

๖.๒.๓   ไม่ต้องคำพิพากษาของศาลถึงที่สุดให้ล้มละลาย โดยการต้องคำพิพากษาของศาล ถึงที่สุดในกรณีดังกล่าวจะต้องเป็นในขณะที่สมัครเข้าเป็นสมาชิก หรือในระหว่าง ที่เป็นสมาชิกของสมาคมเท่านั้น

ข้อ ๗.    สมาชิกทุกประเภทต้องชำระค่าลงทะเบียน และค่าบำรุงสมาคมครั้งละไม่เกิน ๕๐,๐๐๐ บาท ทั้งนี้อัตราค่าลงทะเบียน และค่าบำรุงสมาคม อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามมติของคณะกรรมการสมาคม  

ข้อ ๘.    การสมัครเข้าเป็นสมาชิกของสมาคม ให้ผู้ประสงค์จะสมัครเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมยื่นใบสมัคร ตามแบบของสมาคมต่อเลขานุการ โดยมีสมาชิกสามัญรับรองอย่างน้อย ๒ คน และให้เลขานุการติดประกาศรายชื่อผู้สมัครไว้ ณ สำนักงานของสมาคมเป็นเวลาไม่น้อยกว่า ๑๕ วัน เพื่อให้สมาชิกอื่น ๆ ของสมาคมจะได้คัดค้านการสมัครนั้น เมื่อครบกำหนดประกาศแล้วก็ให้เลขานุการนำใบสมัคร และหนังสือคัดค้านของสมาชิก (ถ้ามี) เสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการเพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป

การพิจารณาอนุมัติการรับสมาชิกา่มัญและสมาชิกวิสามัญประเภทที่ ๑ ให้ใช้เสียงข้างมากของที่ประชุม แต่มติในการรับสมาชิกวิสามัญประเภท ๒ ต้องใช้เสียงไม่น้อยกว่า ๒ ใน ๓ ของคณะกรรมการที่มาร่วมประชุม เมื่อคณะกรรมการพิจารณาการสมัครแล้ว ผลเป็นประการใดให้เลขานุการเป็นผู้แจ้งให้ผู้สมัครทราบโดยเร็ว และสถานภาพเริ่มเมื่อชำระค่าบำรุงสมาคมแล้ว

ข้อ ๙.    สมาชิกภาพของสมาชิกกิตติมศักดิ์ ให้เริ่มนับตั้งแต่วันที่หนังสือตอบรับคำเชิญของผู้ที่คณะกรรมการได้ พิจารณาลงมติให้เชิญเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมได้มาถึงยังสมาคม

ข้อ ๑๐.  สมาชิกภาพของสมาชิกให้สิ้นสุดลงด้วยเหตุดังต่อไปนี้

๑๐.๑     เลิกกิจการหรือคำพิพากษาสั่งให้ล้มละลาย

๑๐.๒     ลาออก โดยยื่นหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรต่อคณะกรรมการ และคณะกรรมการได้พิจารณาอนุมัติ และสมาชิกผู้นั้นได้ชำระหนี้สินที่ยังติดค้างอยู่กับสมาคมเป็นที่เรียบร้อย

๑๐.๓     ขาดคุณสมบัติในการเป็นสมาชิก

๑๐.๔     ที่ประชุมใหญ่ของสาคม หรือคณะกรรมการได้พิจารณาลงมติให้พ้นจากการเป็นสมาชิก เพราะสมาชิกผู้นั้นได้ประพฤตินำความเสื่อมเสียมาสู่สมาคม

ข้อ ๑๑.   สิทธิและหน้าที่ของสมาชิกสามัญมีดังต่อไปนี้

๑๑.๑     มีสิทธิเข้าใช้สถานที่โดยเท่าเทียมกัน

๑๑.๒     มีสิทธิเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับการดำเนินการของสมาคมต่อคณะกรรมการ

๑๑.๓     มีสิทธิได้รับสวัสดิการต่าง ๆ ที่สมาคมได้จัดให้มีขึ้น

๑๑.๔     มีสิทธิเข้าร่วมประชุมใหญ่ของสมาคม

๑๑.๕     มีสิทธิในการเลือกตั้ง หรือได้รับการเลือกตั้ง หรือแต่งตั้งเป็นกรรมการสมาคม และมีสิทธิออกเสียงลงมติต่าง ๆ ในที่ประชุมได้คนละ ๑ คะแนนเสียง

๑๑.๖     มีสิทธิร้องขอต่อคณะกรรมการ เพื่อตรวจสอบเอกสารและบัญชีทรัพย์สินของสมาคม

๑๑.๗     มีสิทธิเข้าชื่อร่วมกันอย่างน้อย ๑ ใน ๓ ของสมาชิกสามัญทั้งหมด ร้องขอต่อคณะกรรมการให้จัดประชุมใหญ่วิสามัญได้

๑๑.๘     มีหน้าที่จะต้องปฏิบัติตามระเบียบปฏิบัติ และข้อบังคับของสมาคมโดยเคร่งครัด

๑๑.๙     มีหน้าที่ประพฤติตนให้สมกับเกียรติที่เป็นสมาชิกของสมาคม

๑๑.๑๐   มีหน้าที่ให้ความร่วมมือและสนับสนุนการดำเนินกิจการต่าง ๆ ของสมาคม

๑๑.๑๑   มีหน้าที่ร่วมกิจกรรมที่สมาคมได้จัดให้มีขึ้น

๑๑.๑๒   มีหน้าที่ช่วยเผยแพร่ชื่อเสียงของสมาคมให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย

๑๑.๑๓   มีหน้าที่รักษาผลประโยชน์และเกียรติคุณของสมาคม กับต้องสนับสนุนช่วยเหลือกิจกรรมของสมาคม และปฏิบัติตามข้อบังคับหรือระเบียบของสมาคม รวมถึงจริยธรรมของวิชาชีพทุกประการ

สมาชิกวิสามัญทุกประเภทมีสิทธิและหน้าที่เช่นเดียวกันกับสมาชิกสามัญ ยกเว้นสิทธิในข้อ ๑๑.๕-๑๑.๗

และเพื่อส่งเสริมการรักษานโยบาย การรักษาผลประโยชน์ และเกียรติคุณของสมาคม และส่งเสริมจริยธรรมของผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนของสมาคม ฯ ประธาน ฯ จึงเสนอให้เพิ่มเติมข้อบังคับเกี่ยวกับการควบคุมความประพฤติสมาชิกลงในข้อบังคับ โดยกำหนดจริยธรรมของวิชาชีพของสื่อมวลชน และกำหนดให้มีคณะกรรมการควบคุมจริยธรรมวิชาชีพสื่อ สอดส่องและควบคุมความประพฤติของสมาชิกให้เป็นไปตามข้อบังคับและจริยธรรมวิชาชีพ โดยเพิ่มหมวดใหม่ในข้อบังคับคือ หมวดที่ ๗ ว่าด้วยการควบคุมความประพฤติสมาชิก ในข้อบังคับ ๔๐-๔๓


หมวดที่ ๓
การดำเนินกิจการสมาคม


ข้อ ๑๒.  ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่ง ทำหน้าที่บริหารกิจการของสมาคม มีจำนวนอย่างน้อย ๑๕ คน อย่าง มากไม่เกิน ๒๐ คน คณะกรรมการนี้ได้มาจากการเลือกตั้งของที่ประชุมใหญ่ของสมาคม และให้ผู้ที่ได้เลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่เลือกตั้งกันเองเป็นนายกสมาคม ๑ คน และอุปนายกตามจำนวนที่ที่ประชุมเห็นสมควร สำหรับตำแหน่งกรรมการในตำแหน่งอื่น ๆ ให้นายกสมาคมเป็นผู้แต่งตั้ง ผู้ที่ได้รับเลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่เข้าดำรงตำแหน่งต่าง ๆ ของสมาคมตามที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งตำแหน่งของกรรมการสมาคมมีตำแหน่งและหน้าที่โดยสังเขปต่อไปนี้

๑๒.๑   นายกสมาคม   ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าในการบริหารกิจการของสมาคม คณะกรรมการของสมาคมเป็นผู้แทนสมาคมในการติดต่อกับ บุคคลภายนอกและทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุมคณะกรรมการ และการประชุมใหญ่ของสมาคม

๑๒.๒ อุปนายก   ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยนายกสมาคมในการบริหารกิจการสมาคม ปฏิบัติตามหน้าที่ที่นายกสมาคมได้มอบหมายและทำหน้าที่แทนนายกสมาคม เมื่อนายกสมาคมไม่อยู่ หรือไม่สามารถจะปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่การทำหน้าที่แทนนายกสมาคม ให้อุปนายกสมาคมตามลำดับตำแหน่งเป็นผู้กระทำการแทน

๑๒.๓  เลขานุการ  ทำหน้าที่เกี่ยวกับงานธุรการของสมาคมทั้งหมดเป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่ของสมาคมในการปฏิบัติกิจการของสมาคมและ ปฏิบัติตามคำสั่งของนายกสมาคม ตลอดจนทำหน้าที่เป็นเลขานุการในการประชุมต่าง ๆ ของสมาคม

๑๒.๔  เหรัญญิก  ทำหน้าที่เกี่ยวกับการเงินทั้งหมดของสมาคม เป็นผู้จัดทำบัญชี รายรับ รายจ่าย บัญชีงบดุลของสมาคม และเก็บเอกสาร หลักฐานต่าง ๆ ของสมาคมไว้เพื่อตรวจสอบ

๑๒.๕  ปฏิคม  ทำหน้าที่ในการให้การต้อนรับแขกของสมาคม เป็นหัวหน้าในการจัดเตรียมสถานที่ของสมาคม และจัดเตรียมสถานที่ประชุมต่าง ๆ ของสมาคม

๑๒.๖  นายทะเบียน ทำหน้าที่เกี่ยวกับทะเบียนสมาชิกทั้งหมดของสมาคม ประสานงานกับเหรัญญิกในการเรียกเก็บเงินค่าบำรุงสมาคมจากสมาชิก

๑๒.๗  ประชาสัมพันธ์ ทำหน้าที่เผยแพร่กิจการและชื่อเสียงเกียรติคุณของสมาคมให้สมาชิก และบุคคลโดยทั่วไปให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย

๑๒.๘  กรรมการตำแหน่งอื่น ๆ  ตามความเหมาะสม ซึ่งคณะกรรมการเห็นสมควรกำหนดให้มีขึ้นโดยมีจำนวนเมื่อรวมกับตำแหน่งกรรมการตามข้างต้นแล้ว จะต้องไม่เกินจำนวนที่ข้อบังคับได้กำหนดไว้ แต่ถ้าคณะกรรมการมิได้กำหนดตำแหน่งก็ถือว่าเป็นกรรมการกลาง

คณะกรรมการชุดแรก ให้ผู้เริ่มการจัดตั้งสมาคมเป็นผู้เลือกตั้ง ประกอบด้วยนายกสมาคมและกรรมการอื่น ๆ ตามจำนวนที่เห็นสมควรตามข้อบังคับของสมาคม

ข้อ ๑๓. คณะกรรมการของสมาคมมีวาระดำรงตำแหน่งได้คราวละ ๒ ปี และเมื่อคณะกรรมการอยู่ในตำแหน่งครบกำหนดตามวาระแล้ว แต่คณะกรรมการชุดใหม่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนจากทางราชการ ก็ให้คณะกรรมการที่ครบกำหนดตามวาระรักษาการไปพลางก่อน จนกว่าคณะกรรมการชุดใหม่ จะได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนจากทางราชการ  และเมื่อคณะกรรมการชุดใหม่ได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนจากทางราชการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ให้ทำการส่งและรับมอบงานกันระหว่างคณะกรรมการชุดเก่าและคณะกรรมการชุดใหม่ให้เป็นที่เสร็จสิ้นภายใน ๓๐ วัน นับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการชุดใหม่ได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนจากทางราชการ

ข้อ ๑๔.   ตำแหน่งกรรมการสมาคม ถ้าต้องว่างลงก่อนครบกำหนดตามวาระก็ให้คณะกรรมการแต่งตั้งสมาชิกสามัญคนใดคนหนึ่งที่เห็นสมควรเข้าดำรงตำแหน่งแทนตำแหน่งที่ว่างลงนั้น แต่ผู้ดำรงตำแหน่งแทนอยู่ในตำแหน่งได้เท่ากับวาระของผู้ที่ตนแทนเท่านั้น

ข้อ ๑๕.  กรรมการอาจจะพ้นจากตำแหน่ง ซึ่งมิใช่เป็นการออกตามวาระด้วยเหตุผลต่อไปนี้ คือ

๑๕.๑     ตาย

๑๕.๒    ลาออก

๑๕.๓    ขาดจากสมาชิกภาพ

๑๕.๔    ที่ประชุมใหญ่ลงมติให้ออกจากตำแหน่ง

ข้อ ๑๖.  กรรมการที่ประสงค์จะลาออกจากตำแหน่งกรรมการให้ยื่นใบลาออกเป็นลายลักษณ์อักษรต่อคณะกรรมการ และให้พ้นจากตำแหน่งเมื่อคณะกรรมการมีมติให้ออก

ข้อ ๑๗.  อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ

๑๗.๑    มีอำนาจออกระเบียบปฏิบัติต่างๆ เพื่อให้สมาชิกได้ปฏิบัติ โดยระเบียบปฏิบัตินั้นจะต้องไม่ขัดต่อข้อบังคับฉบับนี้

๑๗.๒    มีอำนาจแต่งตั้งและถอดถอนเจ้าหน้าที่ของสมาคม

๑๗.๓    มีอำนาจแต่งตั้งกรรมการที่ปรึกษา หรืออนุกรรมการได้ แต่กรรมการที่ปรึกษา หรือ อนุกรรมการจะสามารถอยู่ในตำแหน่งได้ไม่เกินวาระของคณะกรรมการที่แต่งตั้ง

๑๗.๔    มีอำนาจเรียกประชุมใหญ่สามัญประจำปี และประชุมใหญ่วิสามัญ

๑๗.๕    มีอำนาจแต่งตั้งกรรมการในตำแหน่งอื่น ๆ ที่ยังมิได้กำหนดไว้ในข้อบังคับนี้

๑๗.๖    มีอำนาจบริหารกิจการของสมาคมเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ตลอดจนมีอำนาจอื่น ๆ ตามที่ข้อบังคับได้กำหนดไว้

๑๗.๗    มีหน้าที่รับผิดชอบในกิจการทั้งหมด รวมทั้งการเงินและทรัพย์สินทั้งหมดของสมาคม

๑๗.๘    มีหน้าที่จัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญ ตามที่สมาชิกสามัญจำนวน ๑ ใน ๕ ของสมาชิกทั้งหมด หรือสมาชิกจำนวนไม่น้อยกว่า ๑๐๐ คน ได้เข้าขอชื่อร้อขอให้จัดประชุมใหญ่วิสามัญขึ้น ซึ่งการนี้จะต้องจัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญขึ้นภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือร้องขอ

๑๗.๙    มีหน้าที่จัดทำเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ทั้งที่เกี่ยวกับการเงิน ทรัพย์สินและการดำเนินกิจกรรม ต่าง ๆ ของสมาคมให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ และสามารถจะให้สมาชิกตรวจดูได้เมื่อสมาชิกร้องขอ

๑๗.๑๐  จัดทำบันทึกการประชุมต่างๆ ของสมาคม เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานและจัดส่งให้สมาชิกได้รับทราบ

๑๗.๑๑ มีหน้าที่อื่นๆ ตามที่ข้อบังคับได้กำหนดไว้

ข้อ ๑๘.  คณะกรรมการจะต้องประชุมกันอย่างน้อยปีละ  ๑๒  ครั้ง โดยให้จัดขึ้นเป็นประจำเดือนละ  ๑  ครั้ง ทั้งนี้เพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับการบริหารกิจการของสมาคม

ข้อ ๑๙.  การประชุมคณะกรรมการ จะต้องมีกรรมการเข้าร่วมประชุมไม่น้อยกว่าครึ่งนึงของกรรมการทั้งหมดจึงจะถือว่าครบองค์ประชุม มติของที่ประชุมคณะกรรมการ ถ้าข้อบังคับมิได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่นก็ ให้นถือคะแนนเสียงข้างมากเป็นเกณฑ์ แต่ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันก็ให้ประธานในการประชุมเป็นผู้ชี้ขาด

ข้อ ๒๐.  ในการประชุมคณะกรรมการ ถ้านายกสมาคมและอุปนายกสมาคมไม่อยู่ในที่ประชุมหรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ก็ให้กรรมการที่เข้าประชุมในคราวนั้นเลือกตั้งกันเอง เพื่อให้กรรมการคนใดคนหนึ่ง ทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุมคราวนั้น


หมวดที่ ๔
การประชุมใหญ

ข้อ ๒๑.  การประชุมใหญ่ของสมาคมมี ๒ ชนิด คือ

๒๑.๑     ประชุมใหญ่สามัญ

๒๒.๒    ประชุมใหญ่วิสามัญ

ข้อ ๒๒.  คณะกรรมการจะต้องจัดให้มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ๆ ละ ๑ ครั้ง ภายในเดือน กันยายน ของทุก ๆ ปี

ข้อ ๒๓.  การประชุมใหญ่วิสามัญอาจจะมีขึ้นได้ก็โดยเหตุที่คณะกรรมการเห็นควรจัดให้มีขึ้นหรือเกิดขึ้นด้วยการเข้าชื่อร่วมกันของสมาชิกไม่น้อยกว่า ๑ ใน ๕ ของสมาชิกสามัญทั้งหมด หรือสมาชิก จำนวนไม่น้อยกว่า ๑๐๐ คน ทำหนังสือร้องขอต่อคณะกรรมการให้จัดให้มีขึ้น

ข้อ ๒๔.  การแจ้งกำหนดนัดประชุมใหญ่ให้เลขานุการเป็นผู้แจ้งกำหนดนัดประชุมใหญ่ให้สมาชิกได้ทราบ และการแจ้งจะต้องแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร โดยระบุวัน เวลา และสถานที่ให้ชัดเจน โดยจะต้องแจ้งให้สมาชิกได้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๗ วัน และประกาศแจ้งกำหนดนัดประชุมไว้ ณ สำนักงาน ของสมาคมเป็นเวลาไม่น้อยกว่า ๗ วัน ก่อนถึงกำหนดการประชุมใหญ่

ข้อ ๒๕.  การประชุมใหญ่สามัญประจำปี จะต้องมีวาระการประชุมอย่างน้อยดังต่อไปนี้

๒๕.๑    แถลงกิจการที่ผ่านมาในรอบปี

๒๕.๒    แถลงบัญชีรายรับ รายจ่าย และบัญชีงบดุลของปีที่ผ่านมาให้สมาชิกรับทราบ

๒๕.๓    เลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ เมื่อครบกำหนดวาระ

๒๕.๔    เลือกตั้งผู้สอบบัญชี

๒๕.๕    เรื่องอื่นๆ ถ้ามี

ข้อ ๒๖.  ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี หรือการประชุมใหญ่วิสามัญจะต้องมีสมาชิกสามัญเข้าร่วมประชุมไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของสมาชิกสามัญทั้งหมด จึงจะถือว่าครบองค์ประชุม แต่ถ้าเมื่อถึงกำหนด เวลาประชุมยังมีสมาชิกสามัญเข้าร่วมประชุมไม่ครบองค์ประชุม ให้คณะกรรมการของสมาคม เรียกประชุมใหญ่อีกครั้งหนึ่ง โดยจัดให้มีการประชุมขึ้นภายใน ๑๔ วัน นับแต่วันที่นัดประชุมครั้งแรก สำหรับการประชุมในครั้งหลังนี้ ถ้ามีสมาชิกสามัญเข้าร่วมประชุมเป็นจำนวนเท่าใดก็ให้ถือว่าครบองค์ ประชุม ยกเว้นถ้าเป็นการ ประชุมใหญ่วิสามัญที่เกิดขึ้นจากการร้องขอของสมาชิกก็ไม่ต้องจัดประชุม ใหญ่ให้ถือว่าการประชุมเป็นอันยกเลิก

ข้อ ๒๗.  การลงมติต่าง ๆ ในที่ประชุมใหญ่ ถ้าข้อบังคับมิได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น ก็ให้ถือคะแนนเสียงข้างมากเป็นเกณฑ์ แต่ถ้าคะแนนเสียงที่ลงมติมีคะแนนเสียงเท่ากันก็ให้ประธานในการประชุมเป็นผู้ชี้ขาด

ข้อ ๒๘.  ในการประชุมใหญ่ของสมาคม ถ้านายกสมาคม และอุปนายกสมาคมไม่มาร่วมประชุมหรือไม่ สามารถจะปฏิบัติหน้าที่ได้ก็ให้ที่ประชุมใหญ่ทำการเลือกตั้งกรรมการที่มาร่วมประชุมคนใดคนหนึ่ง ให้ทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุมคราวนั้น


หมวดที่ ๕
การเงินและทรัพย์สิน

ข้อ ๒๙.  การเงินและทรัพย์สินทั้งหมดให้อยู่ในความรับผิดชอบของคณะกรรมการ เงินสดของสมาคมถ้ามีให้นำ ฝากไว้ในธนาคาร    ไทยพาณิชย์   สาขา   สามเสน  

ข้อ ๓๐.  การลงนามในตั๋วเงินหรือเช็คของสมาคมจะต้องมีลายมือชื่อของนายกสมาคม หรือผู้ทำการแทน ลงนามร่วมกับเหรัญญิก หรือเลขานุการ พร้อมกับประทับตราของสมาคมจึงจะถือว่าใช้ได้

ข้อ ๓๑.  ให้นายกสมาคมมีอำนาจสั่งจ่ายเงินของสมาคมได้ครั้งละไม่เกิน  ๑๐,๐๐๐  บาท(หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) ถ้าเกินกว่านั้นจะต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการและคณะกรรมการ จะอนุมัติให้จ่ายเงินได้ครั้งละไม่เกิน  ๕๐,๐๐๐ บาท (ห้าหมื่นบาทถ้วน) ถ้าจำเป็นจะต้องจ่าย เกินกว่านี้ ต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมใหญ่ของสมาคม

ข้อ ๓๒.  ให้เหรัญญิก มีอำนาจเก็บรักษาเงินสดของสมาคมได้ไม่เกิน  ๕,๐๐๐ บาท (ห้าพันบาทถ้วน) ถ้าเกินกว่าจำนวนนี้ จะต้องนำฝากธนาคารในบัญชีของสมาคมทันทีที่โอกาสอำนวยให้

ข้อ ๓๓.  เหรัญญิกจะต้องทำบัญชีรายรับ รายจ่าย และบัญชีงบดุล ให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ การรับหรือจ่ายเงินทุกครั้งจะต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ ลงลายมือชื่อของนายกสมาคม หรือผู้ทำการแทนร่วมกับเหรัญญิก หรือผู้ทำการแทน พร้อมกับประทับตราของสมาคมทุกครั้ง

ข้อ ๓๔.  ผู้สอบบัญชีจะต้องมิใช่กรรมการหรือเจ้าหน้าที่ของสมาคม และจะต้องเป็นผู้สอบบัญชีที่ได้รับอนุญาต

ข้อ ๓๕.  ผู้สอบบัญชีมีอำนาจหน้าที่จะเรียกเอกสารที่เกี่ยวกับการเงินและทรัพย์สินจากคณะกรรมการและ สามารถจะเชิญกรรมการหรือเจ้าหน้าที่ของสมาคมเพื่อสอบถามเกี่ยวกับบัญชีและทรัพย์สินของสมาคมได้

ข้อ ๓๖.  คณะกรรมการจะต้องให้ความร่วมมือกับผู้สอบบัญชี เมื่อได้รับการร้องขอ


หมวดที่ ๖
การเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อบังคับและการเลิกสมาคม

ข้อ ๓๗.  ข้อบังคับสมาคมจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้โดยมติของที่ประชุมใหญ่เท่านั้น และองค์ประชุมใหญ่จะต้องมีสมาชิกสามัญเข้าร่วมประชุมไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของสมาชิกสามัญทั้งหมด มติของที่ประชุมใหญ่ในการให้เปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อบังคับ จะต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า ๒ ใน ๓ ของสมาชิกสามัญที่เข้าร่วมประชุมทั้งหมด

ข้อ ๓๘.   การเลิกสมาคมจะเลิกได้ก็โดยมติของที่ประชุมใหญ่ของสมาคม ยกเว้นเป็นการเลิกเพราะเหตุ ของกฎหมาย มติของที่ประชุมใหญ่ที่ให้เลิกสมาคมจะต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า ๓ ใน ๔ ของสมาชิกสามัญที่เข้าร่วมประชุมทั้งหมด และองค์ประชุมใหญ่จะต้องไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่ง ของสมาชิกสามัญทั้งหมด

ข้อ ๓๙.  เมื่อสมาคมต้องเลิก ไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ ก็ตามทรัพย์สินของสมาคมที่เหลืออยู่หลังจากที่ได้ชำระบัญชี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้ตกเป็นของมูลนิธิ หรือสมาคมที่มีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการสาธารณกุศลตามที่ทางสมาคมเห็นชอบ

หมวดที่ ๗
การควบคุมประพฤติสมาชิก

ข้อ ๔๐.  จริยธรรมของวิชาชีพตามข้อ ๑๑ ที่สมาชิกทุกคนต้องยึดถือปฏิบัติได้แก่

๔๐.๑ ส่งเสริมและรักษาไว้ซึ่งเสรีภาพของการเสนอข้อมูลข่าวสารและความคิดเห็นบนเว็บไซต์

๔๐.๒ การนำเสนอข้อมูลข่าวสารบนเว็บไซต์จะต้อวไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล หรือพาดพิงให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลหนึ่งบุคคลใด หากพบข้องความในลักษณะดังกล่าวจะต้องรีบแก้ไขให้ถูกต้องโดยเร็ว

๔๐.๓ ในการได้มาซึ่งเนื้อหา ภาพ เสียง วีดีโอ โปรแกรม หรือข้อมูลอื่นใด มาเผยแพร่บนเว็บไซต์จะต้องใช้วิธีการที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น

๔๐.๔ ไม่กระทำการก่อกวน บุกรุก ทำความเสียหาย ให้แก่เครื่องให้บริการและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น

๔๐.๕ ไม่กระทำการอันเป็นการบั่นทอนเกียรติคุณของวิชาชีพ หรือความสามัคคีของเพื่อนร่วมวิชาชีพ

ข้อ ๔๑.  ให้คณะกรรมการบริหาร เลือกคณะกรรมการคสบคุมจริยธรรมวิชาชีพ จากสมาชิกสามัญ ผู้มีความประพฤติดี ขึ้นคณะหนึ่ง มีจำนวนไม่เกินห้าคนที่มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับบุคคลในข้อ ๖.๑

ข้อ ๔๒.  คณะกรรมการควบคุมจริยธรรมมีหน้าที่

๔๒.๑ สอดส่องและควบคุมความประพฤติของสมาชิกให้เป็นไปตามข้อบังคับ และจริยธรรมวิชาชีพ

๔๒.๒ สอบสวนสมาชิกที่ถูกกล่าวหาว่าประพฤติผิดจริยธรรม เมื่อได้รับคำขอจากคณะกรรมการบริหาร

๔๒.๓ สอบสวนคุณสมบัติ และความประพฤติของผู้สมัครเป็นสมาชิกใหม่ ตามที่คณะกรรมการบริหารร้องขอ ในกรณีที่คณะกรรมการควบคุมจริยธรรมวิชาชีพดำเนินการสอบสวนแล้ว ให้เสนอความเห็นเป็นลายลักษณ์อักษรต่อคณะกรรมการบริหารเพื่อดำเนินการต่อไป

ข้อ ๔๓. คณะกรรมการควบคุมจริยธรรมวิชาชีพมีวาระการดำรงตำแหน่งเท่ากับอายุของคณะกรรมการบริหารในปีนั้น


หมวดที่ ๘
บทเบ็ดเตล็ด

ข้อ ๔๐.  การตีความข้อบังคับของสมาคม หากเป็นที่สงสัยให้ที่ประชุมใหญ่โดยเสียงข้างมากของที่ประชุมชี้ขาด

ข้อ ๔๑.  ให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยสมาคมมาใช้บังคับ ในเมื่อข้อบังคับของสมาคมมิได้กำหนดไว้ และหากมีข้อบังคับใดขัดกับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ก็ให้ถือปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

ข้อ ๔๒.  สมาคมต้องไม่ดำเนินการหาผลประโยชน์มาแบ่งปันกัน หรือเพื่อบุคคลใด นอกจากเพื่อดำเนินการ ตามวัตถุประสงค์ของสมาคมเอง


หมวดที่ ๙
บทเฉพาะกาล

ข้อ ๔๓.  ข้อบังคับฉบับนี้นั้นให้เริ่มใช้บังคับได้นับแต่วันที่สมาคมได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล เป็นต้นไป

ข้อ ๔๔.  เมื่อสมาคมได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลจากทางราชกาลก็ให้ถือว่าผู้เริ่มการทั้งหมดเป็นสมาชิกสามัญ


ผู้จัดทำข้อบังคับ
(นายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี)

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า