สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ เปิดตัวอย่างเป็นทางการ เดินหน้ากำกับดูแลกันเองสื่อทุกแพลตฟอร์ม ส่งเสริมเสรีภาพบนความรับผิดชอบ พร้อมทำ MOU กับ WISESIGHT (Thailand) สนับสนุนระบบกำกับดูแลด้านจริยธรรม “ดร.สมเกียรติ” ยก 3 โมเดลต่างชาติ โยนโจทย์ทุกฝ่ายร่วมหามาตรการผสมกำกับดูแลกันเองเพื่อความปลอดภัยและประโยชน์ของประชาชน เวทีเสวนา หนุน ฟื้นความเชื่อมั่นให้สื่อมวลชนท่ามกลางภูมิทัศน์สื่อที่เปลี่ยนแปลง
เมื่อวันที่ 4 ก.ค. สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ จัดงานครบรอบ 24 ปี โดยมีพิธีเปิดตัว “สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ” อย่างเป็นทางการ และลงนามความร่วมมือ (MOU) ระหว่างสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ กับ WISESIGHT (Thailand) Co., Ltd จัดทำ Sosical Listening เพื่อสนับสนุนกระบวนการกำกับดูแลด้านจริยธรรม พร้อมจัดปาฐกถาพิเศษเรื่อง “เทคโนโลยีสื่อในอนาคต กับความท้าทายการกำกับดูแล” โดย ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ)
ภายในงานยังได้จัดเสวนาหัวข้อ “เทคโนโลยีสื่อในอนาคต กับความท้าทายการกำกับดูแล” โดยมีผู้ร่วมเสวนา ได้แก่ นายณัฐวุฒิ แสงชูวงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายคอนเทนต์ beartai.com, นายนครินทร์ วนกิจไพบูลย์ บรรณาธิการบริหาร เดอะแสตนดาร์ด, นายวีระศักดิ์ พงษ์อักษร บรรณาธิการบริหาร หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ, ผศ.ดร.วิไลวรรณ จงวิไลเกษม หัวหน้ากลุ่มสาขาวิชาวิทยุและโทรทัศน์ คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชนมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมี ดร.ณัฏฐา โกมลวาทิน ผู้ประกาศข่าวสาวจากไทยพีบีเอส
นายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี ประธานสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ กล่าวเปิดงานว่า วันนี้เป็นวันสำคัญที่จะเปิดสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติอย่างเป็นทางการ จากยุคอนาล็อค มาสู่ยุคดิจิทัล โดยเริ่มจากสภาการหนังสือพิมพ์ที่ทำหน้าที่มา 23 ปี ได้ยกระดับมาเป็นสภาการสื่อมวลแห่งชาติ เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 63 นับเป็นจุดเริ่มต้นของการกำกับดูแลกันเองของสื่อที่หลอมรวมเป็นสื่อออนไลน์เกือบทั้งหมด ภารกิจแรกคือการยกร่างข้อบังคับจริยธรรมสื่อให้ครอบคลุมบังคับใช้กับสื่อทุกประเภท ทุกแพลตฟอร์ม และกำลังแก้ไขข้อบังคับเรื่องร้องเรียนให้ทันสมัยตอบสนองกับสื่อดิจิทัลให้มีประสิทธิภาพ ทั้งการทำงานเชิงรุก รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนและผู้เสียหาย โดยจะะมีระบบติดตามความคืบหน้าที่จะทำงานตามกรอบเวลา
อย่างไรก็ตาม การทำงานของสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ ยังให้ความสำคัญกับการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนทั้ง ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ให้มีการปรับตัวทั้งด้านธุรกิจและเนื้อหาภายใต้กรอบจริยธรรม ผ่านกระบวนการปรึกษาหารือ ฝึกอบรม พร้อมทำงานร่วมกับเครือข่ายสื่อมวลชนต่างประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และทำงานร่วมกับสภาการสื่อมวลชนอินโดนีเซีย สภาการสื่อมวลชนเมียนมา สภาการสื่อมวลชนติมอร์เลสเต พร้อมทั้งจะขยายความสัมพันธ์ไปยังประเทศอื่นต่อไป ทั้งหมดเป็นการกำกับดูแลและส่งเสริมเสรีภาพ ส่งเสริมสนับสนุนให้สื่อมวลชนปฏิบัติหน้าที่ภายใต้หลักเสรีภาพและความรับผิดชอบต่อสังคมต่อไป